LIFE BALANCE METHODOLOGY
ไลฟ์ บาลานซ์ เมธโธดอลโลจี
โทร : 02-114-7635
มือถือ : 097-243-4226
STC Clinic
อังคาร - พฤหัสบดี 10:00 - 19:00 น.
ศุกร์ - อาทิตย์ 11:00 - 20:00 น.
***หยุดทุกวันจันทร์***
เวลาทำการ
Life Balance Methodology
จันทร์ - อาทิตย์ 09:00 - 18:00 น.
***ยกเว้นวันจันทร์ เข้ารับบริการที่ พหลโยธิน 32 เท่านั้น***
โรคภูมิแพ้อาหารแฝง
โรคภูมิแพ้อาหารแฝงคือ?
ภูมิแพ้อาหารแบบแฝงหรือเรียกอีกชนิดว่าแพ้อาหารแบบเรื้อรังนั้น เกิดจากภูมิ (antibody) ชนิด Immunoglobulin G (IgG) ที่ร่างกายสร้างมาต่อต้านอาหาร โดยที่ความรวดเร็วในการเกิดปฏิกิริยาและอาการแพ้หลังจากที่ทานอาหารที่แพ้เข้าไป ไม่ได้เกิดขึ้นรวดเร็วทันทีทันใดแบบเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับภูมิแพ้แบบปกติ (แบบเฉียบพลัน) ซึ่งจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ทำให้คนที่มีอาการต่างๆเหล่านี้ไม่ทราบว่าอาการนั้นเกิดจากสาเหตุใด และไม่ทราบว่าได้เกิดการแพ้อาหารชนิดนั้นๆขึ้นมา กลไกของการแพ้อาหารแบบแฝงนั้น เริ่มจากเมื่อเราบริโภคอาหารที่แพ้เข้าไป เม็ดเลือดขาว (White blood cell) ได้สร้าง Antibody ที่จำเพาะต่ออาหารชนิดที่เราแพ้นั้นๆ ในทางเดินอาหารของเรา สำหรับอาหารที่ไม่ได้แพ้ก็จะถูกดูดซึมผ่านผนังลำไส้เล็กเพื่อที่จะไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายผ่านตามกระแสเลือดตามปกติ แต่อาหารที่แพ้ จะมี Antibody จับกับอาหารที่แพ้ และเกิดเป็นอนุภาคที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และอนุภาคเหล่านี้เองจะเดินทางไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย แล้วก่อให้เกิดการอักเสบที่ร่างกายตามจุดต่างๆ ซึ่งลักษณะอาการต่างๆที่เกิดขึ้น และชนิดของอาหารที่แพ้ จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
ลักษณะอาการของภูมิแพ้อาหารแฝง
สำหรับลักษณะของการแพ้อาหารแบบแฝงนั้น มักจะมีอาการมาในลักษณะที่เราไม่ทราบสาเหตุว่าแพ้สิ่งใด อาหารชนิดไหน และมีอาการแพ้เป็นอยู่บ่อยครั้งแบบเรื้อรัง โดยอาการแพ้แบบแฝงนั้นมีอาการที่แสดงได้หลายจุด เริ่มที่ทางเดินอาหาร เช่นอาการ ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด มีอาการเกิดแก็ซในกระเพาะมักมีการเรอหรือผายลม อาการท้องผูก การมีลักษณะของกลุ่มสิวอักเสบหรือการอักเสบใต้ชั้นผิวหนังตามจุดต่างๆของร่างกาย เช่นใบหน้า ตามตัว หลัง แขนขา รวมไปถึงอาการคันคอไม่ทราบสาเหตุ การปวดหัวแบบเรื้อรัง ไมเกรน อาการการปวดตามข้อ อาการน้ำมูกไหลไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งคนไข้มักจะมีอาการดังกล่าวโดยที่ไม่ทราบสาเหตุมาก่อน และไม่ว่าจะพยายามหาสาเหตุอย่างไร ก็ไม่สามารถที่จะบ่งบอกหรือเจาะจำเพาะในสิ่งที่เป็นสาเหตุใด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาการเหล่านี้ล้วนเกิดจากการแพ้อาหารแบบแฝงนั่นเอง และนอกจากนี้การแพ้แบบแฝงจะไม่มีการหลั่งสาร Histamine เกิดขึ้นเหมือนการแพ้แบบเฉียบพลัน ทำให้การทานยาแก้แพ้ซึ่งเป็น Anti-histamine ไม่ได้ช่วยให้อาการดีขึ้น จะต้องอาศัยการทราบว่าแพ้อาหารอะไร และหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้น เพื่อที่จะทำให้อาการของเราดีขึ้นนั่นเอง
คำถามที่มักพบบ่อย
-
ภูมิแพ้อาหารแฝงต่างกับภูมิแพ้แบบเฉียบพลันอย่างไร
ลักษณะของการแพ้แบบแฝงจะมีจุดเด่นที่ ทำให้เราเกิดอาการได้โดยไม่ทราบสาเหตุ และมีอาการเป็นแบบเรื้อรัง และไม่มีการสร้างสาร Histamine ไม่สามารถทานยาแก้แพ้เพื่อลดอาการได้ ทำให้ไม่มียารักษาโดยตรงนอกเหนือไปจากรักษาตามอาการ
-
ภูมิแพ้อาหารแฝงจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ควรตรวจซ้ำเมื่อไร
ในวัยตั้งแต่วัยทำงานขึ้นไป ภูมิจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่น้อยลงกว่าวัยเด็ก ทำให้ผลการตรวจสามารถใช้งานได้หลายปี หากหลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้แล้วจะมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดมีอาการใหม่ขึ้นโดยที่มั่นใจว่าได้หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้แล้ว จึงค่อยกลับมาตรวจซ้ำ
-
เมื่อทราบผลการตรวจแล้วจะมีการรักษาอย่างไร
ภูมิแพ้แบบแฝงไม่สามารถทานยาแก้แพ้เพื่อให้อาการดีขึ้นได้ ต้องใช้การควบคุมอาหารและปรับวิถีชีวิตในการกิน อาการจะดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
-
ต้องเตรียมตัวอย่างไรในการเข้าตรวจ และตรวจโดยวิธีใด
ไม่จำเป็นต้องงดอาหาร น้ำ หรือยาใดๆก่อนก่อนการตรวจ ซึ่งการตรวจใช้วิธีการเจาะเลือดที่แขนตรงข้อพับ
-
ที่คลินิกไลฟ์บาลานซ์ของเรามีตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงแบบใดบ้าง
มีให้บริการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงสองชุด ได้แก่ชุดภูมิแพ้อาหารแฝงชุดเล็ก59 ชนิด (IgG59) และชุดภูมิแพ้อาหารแฝงชุดใหญ่ 222 ชนิด (IgG222)
กระบวนการในการตรวจ
เมื่อได้นัดหมายวันที่จะเข้ามาตรวจกับทางคลินิกแล้ว ในวันที่รับการตรวจ จะมีนักเทคนิคการแพทย์ทำการซักประวัติ เจาะเลือด อธิบายและให้คำแนะนำเบื้องต้นในวันแรก หลังจากนั้นผลการตรวจแบบสรุปจะถูกส่งให้ทาง E-mail ในวันทำการวันถัดไป หลังจากนั้นจะมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ โทรศัพท์เพื่ออธิบายผลการตรวจและให้คำแนะนำในการปรับวิถีชีวิตในการทานอาหารที่เหมาะสมกับแต่ละคนในอีก 1 วันถัดมาหรือตามนัดหมาย และผลการตรวจฉบับเต็มพร้อมคำแนะนำ จะส่งให้ทางไปรษณีย์ใน 5-7 วันทำการ
ทีมเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ และ
มาตรฐาน ISO ของห้องปฏิบัติการ
เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการที่ทำการทดสอบเป็นนักเทคนิคการแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ และห้องปฏิบัติการได้รับการรับรอง ISO 15189 : 2012 และ ISO 15190 : 2003